รวยด้วยงานเขียนอัตชีวประวัติ

งานเขียน “อัตชีวประวัติบุคคล” นั้นเรียกว่าเป็นงานเขียนอีกประเภทหนึ่งที่ไม่ยากเกินไปนัก ถ้าจะมียากก็คือการขอนัดสัมภาษณ์บุคคลดังๆ ทั่วไปนั้นล่ะ เคยเห็นดาราที่ออกหนังสือไหม? ทุกคนต้องบอกว่าเคยแน่นอน และคิดว่าดาราเหล่านั้นเขียนเองหรือเปล่า? ตอบได้เลยครับว่าเปล่า (แต่ดาราบางคนก็เขียนเองแต่มีน้อยกว่าน้อยเสียอีก) คนที่เขียนนั้นเขาเรียกว่ามือปืน มือผี หรือโกสไรเตอร์ โดยมีวิธีการคือนัดดาราคนนั้นๆ มาสัมภาษณ์ โดยการอัดเทปไปเป็นเรื่องๆ ซักถามเป็นเรื่องๆ ตามที่เราจัดเค้าโครงมาแล้ว และก็กลับไปนั่งถอดเทปเป็นคำพูดก่อน แล้วค่อยนำมาเรียบเรียงอีกทีเท่านี้ก็เสร็จ ดาราคนนั้นๆ อาจจะเอาชื่อตนเองไปพิมพ์หน้าปกว่าแต่งเอง แต่เปล่าเลย ในวงการนี้ใครๆ ก็รู้ว่าคนที่เขียนจริง ๆ นั้นคือโกสไรเตอร์ ซึ่งโกสไรเตอร์นี้ถ้าหากเขียนเก่งบวกกับการดึงจุดขายของดาราออกมาได้มากเท่าไรก็ยิ่งสามารถรวยด้วยงานเขียน ได้พอๆ กับนักเขียนประเภทอื่น…

รวยด้วยงานเขียนเฉพาะทาง

หลายคนคิดว่าเราคงไม่สามารถเขียนได้ใหม่ ๆ ไม่สามารถเป็นนักเขียนได้ ทว่าอยากเขียนและมีความรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งเฉพาะอยากจะถ่ายทอดให้คนอื่น ๆ ได้อ่าน ทางออกของปัญหานี้ก็คือลองเขียนงานเขียนที่เรียกว่า “งานเขียนเฉพาะทาง” งานเขียนเฉพาะทางนั้นปัจจุบันมีมากมายและสามารถทำให้คนรวยด้วยงานเขียน แบบนี้มานักต่อนักแล้ว งานเขียนประเภทนี้ไม่ยากเลย ขอให้มีพื้นฐานในการเขียนมาบ้าง บวกกับความรู้เฉพาะทางนั้น ๆ ของตนเองเป็นสำคัญ พยายามดึงศักยภาพความรู้ของตนเองออกมาให้มากที่สุดเป็นพอ แล้วงานเขียนที่ว่านี้มีอะไรบ้าง? ตอบได้เลยว่ามีมากมาย เช่น งานเขียนที่แนะนำการทำเงินออนไลน์ที่มีอยู่หลายเล่มในขนาดนี้ งานเขียนเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ งานเขียนเกี่ยวกับการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ งานเขียนเกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อย งานเขียนเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์ งานเขียนเกี่ยวกับปลูกต้นไม้หรือจัดส่วน ฯลฯ งานเขียนแบบนี้ ภาพถ่ายก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน พยายามบันทึกรูปเอาไว้ทุกขั้นตอน…

รวยด้วยงานเขียนสารคดีท่องเที่ยว

เมื่อเราได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ แล้วเราอยากจะถ่ายทอดสิ่งที่เราเห็นนั้นมาให้คนอื่นได้รับรู้ เราเรียกการเขียนแบบนั้นว่า “สารคดีท่องเที่ยว” ในประเทศไทยนั้นมีนักเขียนสารคดีเก่งๆ มากมาย เช่น คุณธีระภาพ โลหิตกุล นักเขียนสารคดีที่รวยด้วยงานเขียนอีกคนหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะเขียนสารคดีได้ดีและสามารถขายได้แล้ว ยังถ่ายภาพได้ดีและขายได้อีกด้วย งานเขียนประเภทสารคดีนั้นค่อนข้างจะง่าย คล้ายกับการเขียนบันทึกประจำวันนั้นละครับ เพียงแต่เราต้องเอาข้อมูลของสถานที่ต่างๆ ที่เราไปท่องเที่ยวนั้นใส่เข้าไปด้วย ยิ่งข้อมูลนั้นมีประโยชน์มากเท่าไร งานเขียนของเราก็น่าอ่านมากเท่านั้น เรื่องการถ่ายภาพนั้นก็สำคัญ อาจไม่ต้องเก่งเรื่องการถ่ายภาพมากมายนัก แต่ก็ควรจะรู้พื้นฐานในเรื่องของมุมกล้องบ้าง ยิ่งเดี๋ยวนี้มีกล้องที่เรียกว่ากล้องดิจิตอลซึ่งไม่ใช่กล้องฟิล์มแบบสมัยก่อน ฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องฟิล์มหมด นักเขียนที่ไม่เก่งเรื่องการถ่ายภาพมักจะใช้วิธีถ่ายทุกมุมหรือเรียกง่าย ๆ ว่าถ่ายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เวลาเราเขียนสารคดีเสร็จแล้วก็เลือกภาพที่คิดว่าดีที่สุดส่งไปให้ทางสำนักพิมพ์ อย่าลืมตั้งชื่อภาพให้สัมพันกับเนื้อเรื่องด้วย การเขียนสารคดีก็เช่นเดียวกับเขียนบทความนั้นล่ะครับ คือต้องมีเกริ่นนำ…

รวยด้วยการขายชา

รวยด้วยการขายชานมไข่มุก รวยด้วยการขายชาเขียว รวยด้วยการขายชามะนาว รวยด้วยการขายชาดำเย็น รวยด้วยการขายชาสมุนไพร รวยด้วยการขายชาซีลอน รวยด้วยการขายเต้าฮวยชานม รวยด้วยการขายพุดดิ้งชาเขียว รวยด้วยการขายพุดดิ้งชาไทย

กระป๋องนมรีไซเคิลเก็บเครื่องเขียนตามสไตล์คุณ

  เพื่อนๆ คนไหนที่เป็นนักศึกษาก็ดี คนในวัยทำงานก็ดี คนไหนที่อยากมีกระป๋องเก็บเครื่องเขียนที่น่ารักๆ ไม่เหมือนใครมาอ่านได้ที่นี่เลยครับ พราะเราจะมาแนะนำวิธีการทำกระป๋องนมเก็บเครื่องเขียนน่ารักๆให้เพื่อนได้มาอ่านกัน อันดับแรกคนที่สนใจต้องมีคุณสมบัติดังนี้ครับ โต๊ะทำงานหรือโต๊ะเขียนหนังสือรกเหลือเกินด้วยปากกา ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด ต่างๆนาๆมากมายวางเกะกะขว้างการทำงานของคุณอยู่บนโต๊ะ รีบอ่านให้ไวเลยครับ จะได้มีวิธีไปจัดการกับความรกบนโต๊ะของคุณครับ วันนี้มีไอเดียสร้างสรรค์มานำเสนอเพื่อนๆ ครับ ให้ไปลองทำดูครับ ไม่ยากครับ แถมใช้วัสดุอุปกรณ์ไม่มากด้วยครับ อุปกรณ์หลักที่จำเป็นต้องใช้เป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกก็คือ กระป๋องนมหรือกระป๋องอะไรก็ได้ครับเลือกรูปทรงมาตามแต่ใจรักใจชอบเลยครับ ต่อไปเป็นอุปกรณ์ชิ้นที่สอง กระดาษสีครับใครที่ชอบออกแนวเรียบๆแต่หรูก็เลือกกระดาษสีพื้นมาก็ได้ครับเช่นสีน้ำตาล แต่คนไหนที่ชอบลายการ์ตูนน่ารักๆสีชมพูก็ต้องกระดาษห่อของขวัญเลยครับ มีลายให้เลือกมากมายตามสบายเลยครับ หรือจะเป็นกระดาษสาก็ได้นะครับไม่ว่ากัน ต่อไปเป็นอุปกรณ์ชิ้นที่สามครับคือ เชือกปอ หรือไหมพรมสีสันต่างๆตามชอบ…

จากแผ่นดิสก์เก่าๆ มาเป็นกระถางต้นไม้สวยๆ

  เพื่อนๆ คนไหนที่อยู่หอพักที่มีระเบียงข้างนอกห้อง หันมาทางนี้เลยครับ วันนี้มีวิธีเพิ่มความสดชื่นแบบง่ายๆ ที่ระเบียงห้องของคุณครับ และถ้าหากระเบียงห้องของเพื่อนยังว่างอยู่ละก็เป็นโอกาสดีเลยครับ เราลองเอากรถางต้นไม้มาวางเพื่อเพิ่มความสดชื่นและความรู้สึกดีให้กับห้องของเราดีกว่าครับ แถมยังมองแล้วสบายตาอีกด้วยและยังผ่อนคลายอีกต่างหาก แต่กระถางต้นไม้นี้ไม่ธรรมดานะครับ เพราะถ้ามันธรรมดาจะนำมาแนะนำเพื่อนๆทำไมจริงไหมครับ กระถางต้นไม้นี้เป็นการนำของเหลือใช้ที่ไม่ใช้แล้วมาสร้างสรรค์ให้เกินประโยชน์ที่แตกต่างครับ สิ่งของเหลือใช้ที่จะเป็นจุดเด่นของงานในวันนี้ก็คือ แผ่นดิสก์ครับ แผ่นดิสก์เก่าที่ไม่ใช้แล้วเป็นขยะอยู่ในลิ้นชักโต๊ะคอมมานานหลายปีนี่แหละครับคือสิ่งที่เราต้องการจะนำมันมาทำให้เกิดประโยชน์ขึ้นมาอีกครั้ง ต่อไปเป็นวัสดุอุปกรณ์ที่เราต้องเตรียมหาไว้นะครับ มีดังนี้ครับอุปกรณ์ชิ้นแรกก็คือ แผ่นดิสก์เก่าครับประมาณ 5 ชิ้นครับ อุปกรณ์ชิ้นที่สองก็คือ กาว หรือ ลวดก็ได้ครับเพื่อใช้ในการยึดแผ่นดิสก์ทั้ง 5 แผ่นเข้าด้วยกัน ตอนนี้มาถึงขั้นตอนของวิธีการทำแล้วนะครับ เริ่มกันเลยครับนำแผ่นดิสก์เก่า 5 แผ่นที่เตรียมไว้มาก่อน…

ประดิษฐ์ขวดแก้วเทียนหอม

  แค่ขวดแก้วใส่เทียนหอมก็สามารถเนรมิตห้องนอนอันมืดมิดให้เป็นห้องที่แสนจะอบอุ่นและหลับสบายได้เพียงแค่ใช้เวลาอันน้อยนิด สวัสดีครับเพื่อนๆ ห้องนอนของเพื่อนๆ ดูว่างเกินไปหรือเปล่าครับ หรือเพื่อนคนไหนสนใจอยากจะตกแต่งห้องของตัวเองเชิญทางนี้ได้เลยครับ เราจะพาเพื่อนๆไปทำของตกแต่งห้องน่ารักๆกันนะครับ ถ้าเพื่อนอยากจะมีบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกสุดๆอยู่ในห้องของตัวเอง โดยที่ไม่ต้องออกไปหาบรรยากาศโรแมนติกที่ไหนเลยเรามีมาแนะนำให้กับเพื่อนๆ ได้อ่านกันครับ ไอเดียนี้เป็นไอเดียที่เก๋ไก๋จริงๆมาฝากเพื่อนๆ ครับ นั่นคือ ขวดแก้วใส่เทียนหอม เพื่อใช้ตกแต่งห้องของตัวเองครับ ซึ่งวิธีทำไม่ยากเลยครับ ง่ายแสนง่ายมากเลย ลำดับแรกเราต้องจัดหาจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ก่อนนะครับ ดังนี้ครับ 1.ขวดแก้วใส 2.กาว 3.กากเพชรสีต่างๆ ตามที่เพื่อนชอบเลยครับ 4.เทียนหอมสีที่ชอบหรือกลิ่นที่ชอบก็ได้ครับเลือกมาตามใจเลย ต่อไปจะเป็นวิธีทำแล้วนะครับเพื่อนๆ ให้นำอุปกรณ์มาวางใกล้ๆมือเลยครับจะได้อ่านวิธีทำไปด้วย และทำตามไปด้วยได้ครับ ไปเริ่มที่ขั้นตอนที่หนึ่งกันเลยครับ ในขั้นตอนนี้ให้นำขวดโหลแก้วมาทากาวให้รอบขวดครับ หรือจะทาตามรูปทรงที่อยากได้ก็ได้ครับ…

เตยปาหนันของดีจังหวัดกระบี่

  เพื่อนๆ รู้หรือเปล่าครับว่าประโยชน์ของต้นเตยปาหนันนั้นมีอะไรบ้าง หลายคิดอาจจะคิดว่าต้นเตยปาหนันที่ชอบขึ้นอยู่ข้างทะเลหรือป่าโกงกางไม่มีประโยชน์ใดๆเลย แต่คุณรู้หรือไม่ว่าทั้ง ต้น ดอก ราก ผล ของต้นเตยปาหนันนั้นล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น แหมเจ้าเตยปาหนันนี่ช่างเป็นพืชที่เกิดมาแล้วให้ประโยชน์ทั้งคนทั้งโลกเลยได้อย่างดีเลยทีเดียวนะครับ ก็เพราะว่าต้นเตยปาหนันมีประโยชน์อย่างนี้นี่เองพี่น้องในจังหวัดกระบี่เขาจึงนิยมนำต้นเตยปาหนันมาสร้างรายได้อาชีพเสริมให้กับครอบครัวได้เป็นเงินเป็นกอบเป็นกำกันเลย พูดไปแล้วว่ามีประโยชน์ทั้งต้นและทุกส่วนแต่ว่าแต่ละส่วนจะมีประโยชน์อย่างไรนั้นไปอ่านกันดูครับ เริ่มจากส่วนที่ล่างสุดก่อนนะครับ นั่นคือส่วนของราก ให้นำมาต้มดื่มน้ำรับประทานเพราะสามารถแก้โรคนิ่วได้ ส่วนต่อไปขึ้นมาอีกนิดหน่อยครับ เป็นส่วนของใบ ที่สามารถนำมาใช้สานภาชนะต่างๆ ส่วนต่อไปเป็นส่วนของดอก ซึ่งจะมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์สวยงามอยู่แล้วก็สามารถนำมาสานให้เด็กเล็กใช้เป็นเครื่องประดับได้ครับ ส่วนต่อไปส่วนสุดท้าย ก็คือส่วนของต้นเตยปาหนัน ให้นำมาหั่นผสมกับต้นตายปลายเป็นให้กับวัวที่ไม่ค่อยกินอย่า หรือเบื่ออาหารกิน จะทำให้วัวสามารถกินอาหารได้มากขึ้น เป็นอย่างไรครับ ประโยชน์ทั้งหมดทั้งมวลของต้นเตยปาหนันแต่ประโยชน์ของต้นเตยปาหนันนั้นยังไม่จบครับยังมีอีกครับ อันนี้เป็นประโยชน์หลักเลยครับนั่นก็คือ การนำต้นของเตยปาหนันมาสานเป็นชะลอม…

จักสานผักตบชวา ของดีเมืองอ่างทอง

  ผลิตภัณฑ์จักรสานผักตบชวา เป็นผลิตภัณฑ์ของขึ้นชื่อของชาวอ่างทองเขาเลยละครับ เพื่อนๆรูหรือไม่ว่ากว่าจะมาเป็นผลิตภัณฑ์จักรสานผักตบชวาที่ให้เพื่อนได้เห็นได้รู้จักนั้นเขาต้องทำอย่างไรกันบ้าง ใช้อะไรในขั้นตอนการผลิตบ้าง แล้วคนเป็นผู้ริเริ่มการทำผลิตภัณฑ์จักรสานจากผักตบชวานี้ขึ้นมา แต่จะขอบอกเพื่อนๆก่อนนะครับว่า แต่ก่อนไม่ได้ใช้ผักตบชวามาตั้งแต่เริ่มหรอกนะครับ แต่จะใช้อะไรในการจักรสานนั้นถ้าสงสัยก็ไปอ่านกันเลยครับ เดิมทีนั้นเจ้าผักตบชวายังไม่เกิดในวงการนี้ครับ แต่เป็นยุคของเจ้าไม้ไผ่ครับ นิยมใช้จักรสานกันมากในช่วงนั้น เป็นพระเอกเลยละครับ แต่เมื่อเวลาเริ่มผ่านไปไม้ก็เริ่มลดน้อยลง เมื่อไม้ไผ่มีจำนวนน้อยลง สิ่งที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับจำนวนของไม้ไผ่ก็คือ ราคาที่เพิ่มสูงขึ้นมาก จนชาวอ่างทองสูงราคาไม่ไหว แต่สิ่งที่เข้ามาแทนที่ไม้ไผ่นั้นก็คือผักตบชวาเพราะเริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ชาวอ่างทองเขาก็เลยนำเจ้าผักตบชวาเนี่ยแหละมาแปลงโฉมให้เป็นพระเอกแทนเจ้าไม้ไผ่ที่ลดน้อยลงไปครับ งานผลิตภัณฑ์จักรสานผักตบชวาเริ่มออกสู่สายตาประชาชนตามร้านค้าต่างๆไม่ว่าจะเป็นตามร้านค้าในชุมชนคนอ่างทอง หรือประชาชนต่างจังหวัด ด้วยความสวยงามของผลิตภัณฑ์จักรสาน ทำให้มียอดสั่งซื้อสินค้ามาอย่างถล่มทลายเรียกว่าผลิตกันไม่ทันเลยทีเดียวครับ ไม่แปลกหรอกครับที่จะผลิตไม่ทันเพราะงานผลิตภัณฑ์จักรสานผักตบชวาของชาวอ่างทองเขานั้นทำด้วยมือครับ การคัดเลือกเจ้าผักตบชวามาจักรสานนั้นต้องเลือกต้นผักตบชวาต้นที่อยู่ตรงกลางของกอนะครับ จากนั้นนำมาตากแดดทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 5-7 วัน เมื่อแห้งแล้วเราก็นำมาพรมน้ำพอให้ชุ่มน้ำจากนั้นก็นำไปอบครับ…