รวยด้วย อุ อา กะ สะ หัวใจเศรษฐี

อุ อา กะ สะ หัวใจเศรษฐี

พระพุทธเจ้าทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่มนุษยชาติตลอด 45 ปี เพื่อมุ่งหมายให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3 ประการ คือ ประโยชน์ที่สามารถมองเห็นได้ในปัจจุบันที่เช่น มีทรัพย์สมบัติ เกียรติยศชื่อเสียง อันประกอบด้วยลาภ ยศ สุข สรรเสริญ ประโยชน์ชั้นสูงขึ้นไป ได้แก่ความมีจิตใจเจริญงอกงามด้วยคุณธรรมความดีทำให้ชีวิตมีค่า และเป็นหลักประกันในชาติหน้าและประโยชน์อย่างยิ่ง คือ พระนิพพาน อันเป็นเป้าหมายสูงสุดในทางพระพุทธศาสนา

บุคคลใดต้องการความร่ำรวยมีทรัพย์สินเงินทองและเกียรติยศ จะต้องปฏิบัติตามหลักธรรม 4 ประการ หรือเรียกว่า หัวใจเศรษฐี อุ อา กะ สะ โดยจะต้องประพฤติดีปฏิบัติชอบ ดังต่อไปนี้

วิธีการทำอาชีพอิสระ

อุ ตัวแรกของ อุ อา กะ สะ ย่อมาจากคำว่า อุฏฐานสัมปทา แปลว่า ให้ถึงพร้อมด้วยความขยันหมั่นเพียรในการแสวงหาความรู้ หนักเอาเบาสู้ในหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย กิจการทั้งหลายต้องรู้จักรับผิดชอบ โบราณกล่าวว่า ทรัพย์นี้มิไกล ใครปัญญาไว หาได้บ่นาน ทั่วแคว้นแดนดินมีสิ้นทุกสถาน ผู้ใดเกียจคร้าน บ่พานพบนา ซึ่งหมายถึง ทรัพย์สินเงินทองมีอยู่ทุกหนแห่ง ขออย่างเดียวอย่าเกียจคร้านให้ลงมือทำงานทุกชนิดอย่างจริงจังตั้งใจ งาน คือ ชีวิต ชีวิต คือ งานบันดาลสุข ทำงานให้สนุก เป็นสุขเมื่อทำงาน มิใช่รอความสุขจากความสำเร็จของงานอย่างเดียวขาดทุนและขอให้ถือคติว่า ขี้เกียจเป็นแมลงวัน ขยันเป็นแมลงผึ้ง ขี้หึ้งเป็นแมลงป่อง จองหองเป็นกิ้งก่า เราต้องขยันทำงานหาเงินทอง การขยันหมั่นหาเงินทองนั้นมีอยู่หลายวิธีแต่ต้องเป็นการหาโดยวิธีที่สุจริต คือการทำมาหากินที่ไม่ผิดกฎหมายบ้านเมืองและไม่ผิดศีลและธรรม และการหาเงินนั้นต้องไม่เบียดเบียนผู้อื่นไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนเพื่อให้ตนเองเกิดประโยชน์ การขยันทำงานหมั่นหาเงินทองหากได้มาโดยบริสุทธิ์ใจแล้ว เมื่อเรามีเงินทองถึงขั้นคำว่าคนอื่นเขาเรียกว่ารวย เราก็จะรวยโดยไม่อายใครไม่เป็นขี้ปากของใครต่อใครนั้นคือความหมายของคำว่า อุ

อา ตัวที่สองของ อุ อา กะ สะ ย่อมาจากคำว่า อารักขสัมปทา แปลว่า ให้ถึงพร้อมด้วยการรักษาคุ้มครองทรัพย์สินเงินทองที่หามาได้ด้วยความ ขยันหมั่นเพียร ไม่ให้เงินทองรั่วไหลมีอันตราย ระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยมิให้เปลืองเงินทองโดยใช่เหตุ ตลอดจนรักษาหน้าที่การงานของตัวเองไม่ให้เสื่อมเสีย ขอให้ยึดหลักการเก็บเล็กผสมน้อยหรือการเก็บหอมรอมริบ ซึ่งล้วนเป็นขบวนการเก็บรักษาทรัพย์สินเงินทองที่ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง เพราะนี้คือแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ที่เลี้ยงตัวเองได้อย่างสุขกายสบายใจไม่ต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์สนุกอยู่กับคำว่า พอ เงินทองมีเกินใช้ ได้เกินเสียไม่ละเหี่ยจิตใจและขอให้ถือคติว่า ความไม่พอใจจนเป็นคนเข็ญ พอแล้วเป็นเศรษฐีมหาศาล จนทั้งนอกทั้งในไม่ได้การ จงคิดอ่านแก้จนเป็นคนพอ เราต้องรู้รักษาเงิน คือการประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย รู้คุณค่าของเงินทองทุกบาททุกสตางค์ที่เรากว่าจะหามาได้เมื่อหามาได้เราต้องย้อนกลับไปคิดว่าเงินบาทนี้ร้อยนี้พันนี้กว่าเราจะได้มาต้องเสียหยาดเหงื่อและเวลานานเท่าไหร่เมื่อเราคิดถึงคุณค่าของเงินที่เรากว่าจะหามาได้ จะทำให้เราเห็นคุณค่าของเงินที่เราจะเสียไป ไม่ฟุ่มเฟือย รู้จักการประหยัดอดออม คือรู้จักคำว่า อา นั้นเอง

กะ ตัวที่สามของ อุ อา กะ สะ ย่อมาจากคำว่า กัลยาณมิตตตา แปลว่า การมีเพื่อนเป็นคนดี ไม่คบคนชั่ว เพราะคบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล คบคนจึงต้องดูหน้าว่าเพื่อนเป็นคนดีที่มีลักษณะไม่เป็นคนปอกลอก ไม่ดีแต่พูด ไม่หัวประจบและไม่เป็นคนชักชวน ไปในทางฉิบหาย มีการดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน มั่วเมาในการเล่นและผีการพนันเข้าสิงจิตใจ และขอให้ถือคติว่า มีเพื่อนดีมีหนึ่งถึงจะน้อย ดีกว่าร้อยเพื่อนคิดริษยา เหมือนมีเกลือนิดหน่อยด้อยราคา ดีกว่าน้ำเค็มเต็มทะเล หากเราคบคนดีรู้จักคนดีมีศีลและธรรมเขาจะช่วยชี้แนะให้ได้ดีมีเงินทอง เมื่อเรารู้จักพบคบหาแต่คนดีเป็นมิตรแล้วเราก็จะได้เรียนรุ้สิ่งที่ดีจากตัวเขา เราก็จะเป็นคนดี มีงานที่ดี รู้จักบาปบุญรู้จักทำทานและเมตตาต่อสัตว์โลกทั้งหลาย

สะ ตัวที่สี่ของ อุ อา กะ สะ ย่อมาจากคำว่า สมชีวิตา แปลว่า การเลี้ยงชีวิตตามสมควรแก่กำลังทรัพย์ที่หามาได้ รู้จักกำหนดรายรับและรายจ่าย อย่าให้สุรุ่ยสุร่ายฟุ่มเฟือยหรืออัตคัดขัดสนจนเกินไปให้รู้จักออมเงิน ออมเงินเอาไว้ ฉุกเฉินเมื่อไร จะได้ใช้เงินออม และขอให้ถือคติว่า มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ แม้มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน หรืออีกความหมายหนึ่ง การรู้จักใช้คือใช้หนี้เก่าตอบแทนบุญคุณบิดามารดาผู้ที่เลี้ยงดูอุ้มชูเรามาจนเติบใหญ่เราไม่ควรลืมบุญคุณที่พ่อแม่ให้มา หากลุกคนใดลืมบุญคุณของพ่อแม่ต่อให้รวยดวงดีแค่ไหนก็อยู่ได้ไม่นาน การอุปถัมภ์พ่อแม่ยามแก่เฒ่าหรือตอบแทนบุญคุณท่านได้ทุกเมื่อเราก็จะมีแต่สิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต

เมื่อรวมคำกันแล้วนั้นก็คือคำว่ารวยหรือเรียกว่าหัวใจเศรษฐี ก็คือ

อุ.อุฏฐานะสัมปทา
อา.อารักขะสัมปทา
กะ.กัลยาณะมิตตะตา
สะ.สะมะชีวิตา

แปลได้ว่า ขยันหา รักษาดี มีกัลยาณมิตร ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
ความคิดของคนเราอาจจะมองกันคนละมุมอาจจะไม่มีผิดถูกอยู่ที่การที่เราเข้าใจคำว่าการทำดีได้ดี ทำไม่ดีก็ได้สิ่งตอบแทนมาไม่ดี ก็ไม่ยากนะครับกับการที่เราจะรวยด้วย อุ อา กะ สะ เป็นคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ล้ำค่าอีกบทหนึ่งครับ