บิงห์เยือง เมืองอุตสาหกรรมใหม่เวียดนาม

เวียดนามเป็นประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมีประชากรเกือบ 90 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นวัยเด็กและหนุ่มสาวทำงาน ทั้งยังเป็นจุดผลิตสินค้าส่งออกไปยังประเทศจีน อินเดีย ประเทศในเอเชียเหนือ และในตลาดอเมริกา

การเดินทางไปเวียดนามครั้งนี้ มีจุดหมายเพื่อไปสำรวจจังหวัด “บิงห์เยือง” เมืองอุตสาหกรรมใหม่เวียดนาม จังหวัดบิงห์เยืองห่างจากนครโฮจิมินห์ด้วยระยะทาง 45 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

vietnam aec

เส้นทางตามชานเมืองโฮจิมินห์ไปบิงห์เยืองเต็มไปด้วยฝูงมอเตอร์ไซค์ขับขี่กันอย่างหนาแน่น สองข้างส่วนใหญ่เป็นร้านขายมอเตอร์ไซค์ ซ่อมมอเตอร์ไซค์ หมวกกันน็อก ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านขายที่นอน และร้านขายเฟอร์นิเจอร์ เมื่อเข้าสู่ถนนไฮเวย์หมายเลข 13 ถนนใหญ่ขนาด 4 เลนก็ผ่านด่านเก็บค่าผ่านทางเพื่อเข้าสู่เมืองใหม่แห่งนี้

จังหวัดบิงห์เยืองห่างจากสนามบินนานาชาติเติน เซิน เหยิต 22 กิโลเมตร และห่างจากท่าเรือไซ่ง่อน 22 กิโลเมตร ตั้งอยู่ทิศเหนือของนครโฮจิมินห์ ด้านตะวันออกเป็นเมืองด่งนาย ประชากรในจังหวัดบิงห์เยืองมีเกือบ 2 ล้านคน โดยจำนวนมากกว่า 60% อยู่ในวัยทำงาน มีประชากรสำเร็จการศึกษาระดับมัธยม 8,000-9,000 คนต่อปี และมีระบบการฝึกอบรมทางเทคนิคและวิศวกรรมได้มาตรฐาน

วิธีการทำอาชีพอิสระ

อัตราเติบโตเฉลี่ยของจังหวัดบิงห์เยืองอยู่ที่ 14% แบ่งเป็นโครงสร้างภาคอุตสาหกรรม 66% ภาคบริการ 29% การเกษตร 5% อีกทั้งได้เป็นจังหวัดยอดเยี่ยมในการจัดอันดับดัชนีการแข่งขันระหว่างจังหวัดในประเทศเวียดนาม 5 ปีซ้อน ด้วยความที่เป็นจังหวัดแห่งอุตสาหกรรมนั่นเอง

แน่นอนว่าปัจจุบันเศรษฐกิจของจังหวัดบิงห์เยืองยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แม้ว่าจะเจอกับความท้าทายต่าง ๆ ของเศรษฐกิจโลก มูลค่าของอุตสาหกรรมน่าจะสูงถึง 108,144 ล้านล้านด่อง เพิ่มขึ้น 12.8% ส่วนของบริษัทต่างชาติที่มีอยู่ 67.2% เพิ่มขึ้น 13.2% และส่วนของบริษัทในประเทศที่มีอยู่ 32.8% เพิ่มขึ้น 12.1%

บิงห์เยืองจึงเป็นจังหวัดที่ดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการสร้าง หรือย้ายฐานการผลิตเพื่อหาแรงงานคุณภาพและขยายตลาดได้ดี เรียกได้ว่าเป็นเมือง “3 in 1″ ที่มีทั้งอุตสาหกรรม การบริการ และที่พักอาศัย

รัฐบาลเวียดนามได้ตั้งบริษัทเบคาเม็กซ์ ไอดีซี คอร์ปอเรชั่น (Becamex IDC Corporation) ขึ้นมาเพื่อสร้างที่นี่เป็น “เมืองอุตสาหกรรมใหม่” รองรับการขยายตัวของเมืองและภาคอุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ บริษัทเบคาเม็กซ์ฯถือเป็นเจ้าของนิคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ดูแลการนิคมอุตสาหกรรมกว่า 20 แห่ง

บริษัทเบคาเม็กซ์ฯสร้างเมืองบิงห์เยืองเพื่อเอื้ออำนวยแก่ประชากรในทุกระดับชั้น ตั้งแต่แรงงาน พนักงาน พ่อค้าแม่ขาย ไปจนถึงผู้บริหาร พร้อมด้วยการพัฒนาเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย เพื่อการพัฒนาและวางรากฐานในระยะยาว ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมหลัก 2 แห่งคือ นิคมอุตสาหกรรมวีเอสไอพี (Vietnam Singapore Industrial Park : VSIP) และนิคมอุตสาหกรรมหมีเฟื้อก (My Phuoc Industrial Park : MPIP) ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

นิคมอุตสาหกรรมวีเอสไอพีในจังหวัดบิงห์เยือง ตั้งขึ้นเมื่อปี 2539 ด้วยความร่วมมือระหว่าง 2 รัฐบาลคือ รัฐบาลเวียดนาม และรัฐบาลสิงคโปร์ โดยใช้ชื่อเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทเบคาเม็กซ์ ไอดีซี (เวียดนาม) และแซมคอป ดีเวลอปเมนต์ (สิงคโปร์) ปัจจุบันได้เริ่มเปิดตัวโครงการ “วีเอสไอพี1″ ซึ่งเป็นแห่งแรกบนพื้นที่ 500 เฮกตาร์

ส่วนพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมติดกัน ซึ่งเป็นที่นิยมและมีชื่อเสียงคือ “นิคมอุตสาหกรรมหมีเฟื้อก” นิคมนี้เป็นกิจการของรัฐบาลท้องถิ่น ตั้งขึ้นเมื่อปี 2545 มีพื้นที่ทั้งหมด 6,200 เฮกตาร์ แบ่งเป็นทั้งหมด 3 นิคมย่อย มีผู้ลงทุนมากกว่า 400 ราย จาก 28 ประเทศทั่วโลก เม็ดเงินลงทุนมากกว่า 3.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ อาทิ ยูนิเฟล็กซ์, คาวาซากิ, หว่อง จิน กรุ๊ป, ซาบ มิลเลอร์ เบียร์ และไอซีไอ กรุ๊ป เป็นต้น

โครงสร้างพื้นฐานและการบริการในโครงการส่วนใหญ่ คำนึงถึงการขยายตัวของประชากร มีถนนภายในกว้างขนาด 25 เมตร โดยถนนเส้นหลักกว้าง 62 เมตร แบ่งเป็น 10 สายเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรม มีระบบการจำหน่ายไฟฟ้าที่ดี ระบบน้ำมาตรฐาน โครงการบำบัดน้ำเสียมีความจุ 50,000 ลูกบาศก์เมตร ระบบการสื่อสารในโครงการเป็นสายเครือข่ายใยแก้ว และมีอินเทอร์เน็ตแบบความเร็วสูงบริการ

นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนนานาชาติ, มหาวิทยาลัยรวม 6 แห่ง และมีมหาวิทยาลัยนานาชาติแห่งใหม่ชื่อว่า มหาวิทยาลัยอีสเทิร์น อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เปิดมาได้ร่วม 2 ปีแล้ว และวางแผนรองรับนักเรียนถึง 24,000 คน

ในด้านสวัสดิการ ในนิคมแห่งนี้มีการวางรากฐานเรื่องระบบพื้นที่สีเขียวให้ผู้คนได้พักผ่อนหย่อนใจ มีสวนสาธารณะหลายแห่ง ทั้งยังมีศูนย์กีฬา, สนามกอล์ฟ เอ็กซ์คลูซีฟ คลับ และศูนย์วัฒนธรรม

มาสำรวจที่นี่เห็นความเป็น “เมืองอุตสาหกรรม” อย่างแท้จริง เรียกได้ว่าอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย เพราะมีสถานบริการทุกด้านครบครัน ทั้งโรงพยาบาลนานาชาติเมี่ยนดง, โรงพยาบาลแม่และเด็ก, ศุลกากร, ธนาคาร, ไปรษณีย์, บริการขนส่ง, โรงหนัง และพื้นที่เชิงพาณิชย์อื่น ๆ

นอกจากนี้ยังมีการสร้างตึกศูนย์กลางทางการเมืองและบริหารงานจังหวัด ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนปี 2557

ที่พักอาศัยของที่นี่มีทั้งโครงการหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ วิลล่าบ้านพักตากอากาศ คอนโดมิเนียมหลายขนาด โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์

จากการสำรวจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ของที่นี่ พบว่าปัจจุบันมีคนเข้าอาศัยแล้วประมาณ 30% โดยห้องขนาด 45 ตารางเมตร ค่าเช่าเดือนละประมาณ 35,000 บาท และคนที่เข้ามาพักส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางมาดูงานและพนักงานระดับบริหาร เนื่องจากอยู่ใกล้อาคารที่ทำการบริษัทเบคาเม็กซ์ฯ

ปัจจุบันที่นี่เริ่มมีบริษัทไทยที่เข้ามาลงทุนในนิคมของจังหวัดบิงห์เยืองแล้ว ได้แก่ บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท ซี.พี.เวียดนาม และบริษัทเอสซีจี วินา คราฟต์ เปเปอร์ เป็นต้น

ที่น่าสนใจคือ จังหวัดบิงห์เยืองร่วมมือกับประเทศไทย ผ่านตัวแทนที่ดูแลด้านการลงทุนในจังหวัดแห่งนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนักลงทุนไทยสามารถขอรายละเอียดเพิ่มเติมถึงศักยภาพและลู่ทางการเข้าไปลงทุนที่นี่ โดยติดต่อผ่านอีเมล์ becamexthailand@gmail.com

มาเยือน “บิงห์เยือง” ครั้งนี้เห็นศักยภาพของเวียดนามชัดเจนมากขึ้น เป็นอีกตัวเลือกการตั้งฐานการผลิตในบรรดาประเทศเพื่อนบ้านที่น่ามอง คุณสมบัติอีกข้อที่ละเลยไม่ได้คือ ในอนาคตจังหวัดบิงห์เยืองจะได้รับการยกระดับให้เป็นเมืองหลักของประเทศในปี 2558 และจะเป็นเมืองปริมณฑลในปี 2563 อีกด้วย