รวยด้วยการขายของออนไลน์

ในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีได้เข้าถึงในเกือบทุกพื้นที่ ทำให้ชีวิตเราง่ายกว่าเดิม จะซื้อสินค้าทีก็ไม่จำเป็นต้องไปเดินห้าง หรือนั่งรถออกไปซื้อที่ใดๆ แต่อย่างใด เพียงแค่นั่งอยู่ที่บ้านใช้คอมพิวเตอร์ต่อเน็ตก็สามารถซื้อสินค้าที่เราต้องการได้เลย ทำให้การรับสินค้าประเภทต่าง ฃๆ มาขายต่อกันทางเน็ตกำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เพราะมีความประหยัด ไม่ต้องเสียเงินค่าเช่าที่หน้าร้าน ซึ่งกว่าจะคืนทุนแต่ละเดือนก็ต้องขายสินค้าไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ที่สำคัญการขายของทางเน็ต สามารถขายได้ทั่วประเทศและทั่วโลก โดยเรามาดูรายละเอียดอย่างเป็นขั้นตอนได้ดังต่อไปนี้

การทำเว็บไซต์

ในปัจจุบันี้เราไม่จำเป็นต้องจ้างทำเว็บไซต์เสียเงินเรือนหมื่นแบบสมัยก่อนแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้มีเว็บไซต์สำเร็จรูปมากมายลอง Search ดูใน Google เช่น ร้านค้าออนไลน์, ร้านค้าสำเร็จรูป, เปรียบเทียบดูแต่ละ Package ว่าแบบไหนเหมาะกับคุณมากกว่า โโยดูจากรายละเอียดดังนี้ เช่น

• สามารถลงสินค้าได้กี่ชิ้น ลงได้ไม่จำกัดจำนวนหรืเปล่า หรือลงได้จำกัดจำนวนชิ้น
• ได้พื้นที่ในการใข้งานเท่าไร จะเป็นตัวเลข เช่น 256 MB, 512 MB หรือ 1GB ถ้าเว็บคุณมีรูปเยอะ ๆ ซึ่งรูปภาพส่วนใหญ่จะกินพื้นที่ใช้งานมาก ถ้าคุณมีรูปสินค้าเยอะ ๆ อาจจะต้องเลือกแบบ 1GB ครับ
• ดูว่ามี Bandwitch เท่าไร ตัวเลขยิ่งมากยิ่งดื ตัว Bandwitch เหมีอนกับช่องทางที่จะเข้าเว็บเรา ถ้ามี 5 ช่องแล้วตอนนั้นมีคนใช้เว็บเรา 5 คน คนที่ 6 จะเข้าก็เข้าลำบาก เหมือนกับเราโทรศัพท์ไปหาใครสักคน แล้วทางนั้นบอกว่าเครือข่ายไม่ว่าง เพราะ Banwitch ไม่พอ ก็คือมีคนโทรหาคน ๆ นั้นหลายคนในเวลาเดียวกันนั่นเอง
• ให้ Domain Name ฟรึไหม Domain Name ก็คือขือเว็บของเรา หรือว่าให้ใช้ชื่อเว็บเขา แล้วมีชื่อร้านที่คุณต้องการนำหน้า เช่น yourshop.abc.com ซึ่งถ้าจะให้ดืต้องเป็นชื่อ Domain Name ของคุณเอง และต้องตั้งให้จำง่ายเข้าไว้ เพราะถ้าชื่อร้านสะกดตัวอักษรยากเดี๋ยวลูกค้าจะจำชื่อร้านเราไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ขื่อที่จำง่ายจะมีคนจดทะเบียนไปแล้ว ต้องคิดว่าจะขื่ออะไรดี ถ้าคิดชื่อไม่ออกให้ไปที่นี่เลย www.domainsbot.com และใส่ keyword ที่เราต้องการลงไป ทางเว็บนี้จะแนะนำชื่อต่าง ๆ ที่ยังไม่มีนจดทะเบียนมาให้เราดูเพียบเลย
• มืระบบจัดการข้อมูลที่ให้คุณ Update หรือแก้ไขข้อมูลได้ง่ายหรือไม่ สอนให้คุณรึเปล่า บางคนมาตกม้าตายตรงเข้าไปใช้ข้อมูลนี่แหล่ะ เราต้องดูบริการหลังการขายด้วย
• ดู Template (หน้าตาเว็บไซต์) ที่ให้คุณเลือกว่าสวยไหม หรือมีให้เลือกเยอะหรือเปล่า อย่างเช่น เว็บเราขายกาแฟ แต่ไม่มีรูปแบบร้านขายอาหารให้เราเลือกเลย มีแต่รูปแบบอื่นซึ่งมันไม่เข้ากันกับร้านเรา ทำให้เราต้องเสียเงินไปให้เค้าตกแต่งดัดแปลงเว็บเราเป็น option เสริมอีก

เมื่อเลือกเว็บได้แล้วให้เตรืยมข้อมูลก่อน เช่น ถ่ายรูปลินค้า รายละเอียด สินค้า ข้อมูลการติดต่อให้โทรมาสั่ง หรือ Email หรือสั่งบนหน้าเว็บ บัญชีธนาคารที่ให้โอนเงิน ค่าจัดล่งสินค้า โปรโมขั่นต่าง ๆ เมื่อเตรียมข้อมูลแล้วค่อยสั่งซื้อโอนเงินค่าเปิดบริการร้านค้าออนไลน์

ไม่มีทุนซื้อเว็บก็มีเว็บเป็นของตัวเองได้

วิธีการทำอาชีพอิสระ

หรือถ้าคุณมีทุนน้อยก็ใช้ร้านค้าออนไลน์ฟรีไปเลยก็ได้ โดยค้นคำว่า ร้านค้าออนไลน์ฟรี ที่ google เพียง้ท่านี้เราก็จะร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเองได้แล้ว โดยเราจะได้ชื่อประมาณ yourshop.xxx.com และจะจำกัดการใส่สินค้าลงเว็บให้ไม่เกินจำนวนที่เค้ากำหนดไว้ แต่ถ้าคุณมีสินค้าที่จะขายไม่กี่อย่าง การใช้ร้านค้าฟรีก็น่าจะเพียงพอแล้วหล่ะ

อย่าลืมโปรโมทเว็บด้วย

แต่มีเว็บไซต์แล้วแต่ไม่มีคนรู้จักก็กระไรอยู่ เพราะมันจะทำให้ขายไม่ออก ดังนั้นเราก็ต้องไปโปรโมทเว็บไซต์ ให้คนรู้จัก เช่น โพสต์ตามเว็บบอร์ด หรือเว็บประกาศต่าง ๆ เน้นว่าเป็นเว็บที่มีคนเข้ามาก ๆ แล้วให้ มี Link กลับมาที่เว็บไซต์ร้านค้าคุณ หรือจะใช้บริการโฆษณาของ google adwords ก็ได้ ได้ลูกค้าตรงจุดดี หรือจะไปทำ seo ก็ได้ราคาการให้บริการมีตั้งแต่ถูกยันแพง แต่อันดับได้ขึ้นเหมือนกัน ถ้าคุณเป็นเหมือนผมก็คงเลือกบริการที่ถูกกว่าไว้ก่อนใช่มั้ยหล่ะครับ

เมื่อมีคนรู้จัก มีคนสั่งของ ก็ต้องส่งของให้ ถ้าเปีนของที่แตกหักง่าย ก็ให้ห่อกันกระแทกหนา ๆ ส่งของวันไหนมีเลขที่ส่งของ ก็แจ้งให้ลูกค้าทราบด้วย ลูกค้าจะได้เช็คสถานะของพัสดุได้

ชำระเงินจากต่างประเทศ

หากต้องการขายต่างประเทศ หรือหักบัตรเครดิตก็ไปสมัครของ Paypal หรือ Paysbay แต่แนะนำว่าเป็น Paypal เพราะคนต่างชาติไม่ค่อยเชื่อระบบความปลอดภัยของ Paysbuy เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ของคนไทย (เป็นงั้นไป)

ขายอะไรกันดี

และสินค้าที่เหมาะสมสำหรับการขายในเว็บไซต์นั้น ได้แก่ สินค้าที่หาซื้อไม่ได้ทั่วไปตามที่มีวางขายในห้างร้านใหญ่ ๆ หรือเป็นสินค้าหายากในจังหวัดหนึ่ง ๆ หรือสามารถไปเดินหาซื้อได้แต่ราคาแพงกว่าในเน็ตมาก เข่น

– หนังสือใหม่ โดยปัจจัยที่คนจะซื้อคือเป็นของที่คุ้นเคย หรือเชื่อถือได้อยู่แล้ว แต่ราคาในเน็ตถูกกว่า หรืออาจจะเป็นหนังสิอหายากหาที่ไหนก็ไม่มี แต่มาเจอในเน็ต แถมค่าส่งฟรีอีกต่างหาก
– เครื่องสำอางค์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเราต้องยอมรับความจริงว่าในเน็ตมีให้เลือกเยอะกว่าที่วางขายตามร้านค้าทั่วไป
– หากเป็นสินค้าที่ใช้เป็นประจำอยู่แล้วหรือรู้จักสินค้าดอยู่แล้ว แต่หากราคารวมค่าส่ง แพงกว่าการซื้อได้โดยทั่วไป ก็จะมีคนสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต ได้ยาก เพราะเดินไปซื้อตามห้างจะเร็วกกว่า

ติดต่อผู้ขายได้รวดเร็ว

ผู้ประกอบการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ควรเปิดช่องทางไว้ให้ลูกค้าติดต่อได้สะดวกรวดเร็วเสมอ เพราะนอกจากจะช่วยให้การขายดำเนินไปได้อย่างรวดเร็วแล้ว การทำตัวให้ติดต่อได้ง่ายยังช่วยในเรื่องของความน่าเชื่อถือ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพ่อค้าแม่ค้าร้านนี้มีตัวตนจริงๆ ไม่อุปโลกน์ร้านออนไนล์ขึ้นมาหลอกเงิน และด้วยเทคโนโลยีสมัยนี้ทั้งเครื่องมือ เช่น โทรศัพท์มือถือหรือไอแพด ทั้ง Social Media ทั้งแอพพลิเคชั่นต่างๆ เช่น facebook หรือ LINE ก็ช่วยให้การติดต่อทำได้เร็วกว่าเดิม และยังสะดวกกับทั้งแม่ค้าและลูกค้าอีกด้วย หากผู้ประกอบการลองใช้สิ่งเหล่านี้เข้ามาช่วยเรื่องช่องทางติดต่อ ก็จะได้เปรียบร้านค้าที่ยังรับออเดอร์ผ่านอีเมลเท่านั้นอย่างแน่นอน

ช่องทางการชำระเงิน

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ การมีช่องทางรับเงินเพียงทางเดิยวอาจสะดวกสบายเรื่องการเช็กยอดเงินมากกว่าการมีหลายบัญชี แต่สำหรับลูกค้าแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น บางครั้งธนาคารที่ลูกค้าใช้เป็นประจำอาจไม่ใช่ธนาคารที่ผู้ประกอบการเปิดบัญชีไว้เพื่อรับเงินก็ได้ ทำให้ลูกค้าอาจต้องเดินทางเพิ่มมากขึ้นเพื่อไปธนาคาร อาจต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามธนาคารหากลูกค้าโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มหรือธนาคารออนไลน์ ซึ่งนั่นเเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายอีกด้วย ซึ่งการที่ผู้ประกอบการมีบัญชีธนาคารไว้หลายๆ แห่งเพื่อรองรับการชำระเงิน ก็จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น และหากมีการรับชำระผ่านบัตรเครติดเพิ่มเข้ามาด้วยก็จะยิ่งช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย

การจัดส่งสินค้ารวดเร็ว

เป็นเรื่องปกติที่เมื่อลูกค้าจ่ายเงินแล้วก็มักจะต้องการของให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ดังนั้นหากผู้ประกอบการส่งสินค้าให้ลูกค้าได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากเท่านั้น ลองคิดดูในมุมลูกค้า หากเราจ่ายเงินวันนี้ตอนเช้า และพรุ่งนี้ตอนบ่ายเราได้รับสินค้าเลย เราจะรู้สึกดีแค่ไหน ดังนั้นเมื่อลูกค้าจ่ายเงินแล้ว ผู้ประกอบการควรรีบส่งสินค้าให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

หีบห่อดูดี

พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายๆ คนอาจมองข้ามหีบห่อที่แข็งแรงคงทนและดูดี แต่เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างความประทับใจได้มากทีเดียว อย่างที่ทราบกันว่าการส่งของทางไปรษณีย์มีความเสี่ยงที่ทรัพย์สินจะเสียหายได้ เนื่องจากไปรษณีย์ต้องส่งพัสดุจำนวนมากในหนึ่งวัน จึงอาจเกิดการทับซ้อนของพัสดุหรืออาจเกิดการโยนพัสดุขึ้นรถบรรทุก ดังนั้นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จึงควรบรรจุสินค้าลงหีบห่ออย่างระมัดระวัง มีการห่อพลาสติกกันกระแทกสำหรับสินค้าที่อาจแตกได้ เช่น ตลับแป้ง เครื่องสำอาง ห่อพลาสติกหรือนำสินค้าใส่ถุงซิปล็อกอีกชั้นเพื่อกันการเปียกน้ำ และที่สำคัญที่สุดคือพ่อค้าแม่ค้าต้องปิดผนึกกล่องพัสดุให้แน่นหนาที่สุด ไม่ให้เกิดการฉีกขาดระหว่างทาง เพื่อป้องกันสินค้าเสียหายระหว่างทางพ่อค้าแม่ค้าบางรายอาจเพิ่มลูกเล่นลงบนหีบห่อและบรรจุภัณฑ์เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าก็ได้เช่นกัน เช่น เสื้อผ้าและกระเป๋า หากใส่ในถุงผ้ากันฝุ่นหรือห่อกระดาษสวยๆ ก่อนบรรจุลงกล่องก็ช่วยให้ดูมีราคามากขึ้น

ส่วนร้านค้าใดมีกำหนดการส่งของที่แน่นอน เช่น ทุกวันจันทร์และวันศุกร์ ก็ควรจะแจ้งลูกค้าก่อนทำการตกลงซื้อขายและชำระเงิน เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสตัดสินใจ เพราะบางครั้งลูกค้าอาจต้องการใช้สินค้าเร่งด่วน ซึ่งเมื่อเราไม่อาจส่งให้ได้ก็จะสร้างความขุ่นข้องใจให้กับลูกค้าเป็นแน่ หรือหากเป็นสินค้ากระจุกกระจิกน่ารักๆ ที่กลุ่มลูกค้าเป็นหญิงสาวแล้วละก็ การตกแต่งหีบห่อให้สวยงามประหนึ่งห่อของขวัญก็ช่วยสร้างความประทับใจได้เช่นกัน เพราะแสดงถึงความใส่ใจและเป็นกันเองของพ่อค้าแม่ค้า

สาเหตุที่ขายของออนไลน์แล้วยอดตก และทางออกในการแก้ไข

ในภาวะเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงเช่นนปัจจุบันนี้ มีคนจำนวนมากได้ผันตัวเองจากพนักงานประจำมาเป็นเจ้าของธุรกิจเปิดร้านขายของออนไลน์ ซึ่งยอดของผู้ที่เข้ามาทำธุรกิจนี้ นับวันก็จะมีจำนวนสูงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งกว่านั้น ส่วนใหญ่จะขายเกี่ยวกับเสื้อผ้าแฟชั่น หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ เมื่อมีคนมาขายของออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้เกิดการตัดราคากันมากขึ้น เพื่อที่จะดึงลูกค้าเข้ามา ถึงจะราคาน้อยกว่าแต่ลูกค้าก็มาซื้อเยอะ ทำให้ลูกค้าของเราๆ ท่านๆ ที่เคยมีมีอยู่ น้อยลงไป เนื่องจากเกิดการกระจายตัวทางตลาด ยอดขายเราก็จะตกน้อยลงไปๆ นี่คือสภาวะปัจจุบันในตลาดตอนนี้

ซึ่งผมได้สังเกตุจากเพื่อนๆ ของผม และคนรอบๆ ตัว ที่เพิ่งจบมาทำงานใหม่ๆ ได้สักพัก กว่าครึ่งจะเริ่มรู้สึกว่า เงินเดือนมันไม่พอกิน สุดท้ายคิดอะไรไม่ออก ก็เลยออกจากงานมาเปิดร้านขายของออนไลน์ เพื่อหารายได้ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งผมก็ได้ลองถามพวกเพื่อนๆ ว่าทำไมถึงมาเปิดร้าน ก็ได้คำตอบมาว่า เบื่องานประจำ อยากหารายได้เพิ่ม เห็นคนอื่นเขาขายได้เลยอยากทำบ้าง แล้วสินค้าที่นิยมขายกันก็จะเป็น เสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ ซึ่งผมเห็นส่วนใหญ่สุดท้ายก็ต้องปิดตัวกันไป

และถ้าเราได้ลองไปร้านหนังสือต่างๆ ตามห้างสรรพสินค้าดู ในหมวดคอมพิวเตอร์ จะมีแต่หนังสืออกใหม่ๆ เกี่ยวกับ การขายของออนไลน์รวย วิธีรวยออนไลน์ เปิดร้านค้าออนไลน์ รวยเป็นล้านออนไลน์ หรืออื่นๆ มีหนังสือแนวนี้ออกมาเพียบเลย และเช่นกันมีคนซื้อไปอ่านอยู่พอสมควร และทำให้มีคนเปิดร้านค้าออนไลน์กันมากขึ้น หรือลองสังเกตุหนังสือขายดี 10 อันดับ ในร้านหนังสือต่างๆ ดู จะมีไม่ต่ำกว่า 4-5 เล่ม ที่เป็นหนังสือเกี่ยวกับการลาออกจากงานประจำมาทำธุรกิจของตัวเอง หรือเป็นเจ้านายตัวเอง หรือขายของออนไลน์รวยเป็นล้าน จะมีหนังสือแนวๆ นี้ ติดอันดับ TOP 10 อยู่ใน chart ทุกๆ เดือน เมื่อมีคนหันมาขายของออนไลน์กันเยอะขึ้น มันเลยทำให้ยอดขายโดยรวมของแต่ละร้านตกลงเรื่อยๆ เป็นการแชร์ยอดขายกันไปนี่คือ วัฏจักรทางธุรกิจที่เราต้องแก้ปัญหาที่เกิดนี้ขึ้น

และตอนนี้ยิ่งถ้าไม่ติดหน้าแรกของผลการค้นหาในระบบ Google จะทำให้เหมือนหน้าร้านของคุณไปอยู่ในทำเลที่ไม่มีคนเดิน ตอนนี้การทำอันดับคีย์ต่างๆ เลยยากขึ้น เนื่องจากใครๆ ต่างก็ต้องการติดหน้าแรกใน Google กันมากขึ้นครับ

บางท่านขายของเฉพาะกลุ่ม เมื่อตอนทำใหม่ๆ มีคู่แข่งแค่ 2 เจ้า ตอนนี้มีคู่แข่งประมาณ 10 เจ้า แต่ความต้องการซื้อเท่าเดิม เมื่อก่อนแบ่งกัน 2 เจ้า ตอนนี้เหมือนหารสิบ ทำให้เกิดความลำบากในการขาย หลายๆ คนถึงขนาดบอกว่า คนขายเริ่มจะเยอะกว่าคนซื้อซะแล้ว ผมคิดว่าปัจจุบันนี้ คนเริ่มเก็บเงินมากขึ่้น จึงเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นคนขายแทนคนซื้อกัน

วิธีการแก้ก็คือ เมื่อมีคนเข้ามาในตลาดเยอะเยอะ เราก็ต้องปรับตัว และพัฒนาร้านให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ สร้างแบรนด์ สร้างความแตกต่าง และเราก็ต้องทำการตลาดให้ดียิ่งขึ้น สินค้าดี การตลาดดีก็ช่วยให้ขายได้เรื่อยๆ ครับ การขายออนไลน์แข่งกันเยอะ คุณภาพ การบริการ และการซื่อสัตย์ต่อลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญครับ

ผมมีเพื่อนเป็นคนจีนที่พูดไทยได้ เอาครีมพวกยันฮี และพระเครื่องไทย ส่งขายไปที่ประเทศจีน ซึ่งปากฎว่าขายดีมาก และเค้าทำ Ebay ไม่เป็นด้วยซ้ำ ทุกวันนี้เค้ายังอยู่ประเทศไทยครับ

หรืออาจจะลองใช้วิธีขายสินค้าไทยไปตลาดต่างประเทศกันแทน เพื่อหนีจากความแน่นหนาจากตลาดในประเทศ

แต่ปัญหาทุกอย่างก็ไม่สำคัญเท่ากับโอกาสที่จะเกิดขึ้นใหม่จากสภาพทางการตลาดในภาวะนี้นะครับ ลองมองหากันดีๆ ครับ ต้องอย่าหยุดนิ่งครับ เราต้องวิ่งไปรอโอกาสที่มันจะมาถึงนะครับ เราจะไม่ยืนอยู่ที่เดิมรอโอกาสนะครับ ถ้าคุณรู้เมื่อไหร่ว่ากำลังเริ่มตัน คุณก็ต้องเดินทางอื่น หาทางอื่นต่อ ในเมื่อทุกคนหันมาทำขายของออนไลน์ขายคนไทย คุณก็ต้องพัฒนาตัวเอง หาตลาดหนีไปที่อื่นครับ เพราะถ้าย่ำอยู่กับที่ หรือคิดว่ามันเป็นวัฏจักร คุณก็คงต้องวนเวียนไปในกฏแห่งวัฏจักรน่ะครับ เหมือนที่พวกนักวิทยาศาสตร์ได้กล่าวกันน่ะครับว่า การทำแบบเดิม สมมติฐานแบบเดิม จะได้ผลลัพธ์แบบเดิม จะทำให้เกิดการเสียเวลาเปล่าครับ

เราต้องโฟกัสไปที่เป้าหมาย ไม่ใช่ที่อุปสรรคครับ

ลงโฆษณาใน Facebook เวลาไหนดีที่สุด

เห็นหลายๆ ท่านอยากทราบกันว่า จะเลือกลงโฆษณาใน Facebook เวลาไหนดีที่สุด ที่ลงไปแล้วไม่เสียเปล่า มีคนเห็นโฆษณาของเราได้เยอะมากที่สุด ซึ่งก็แน่นอนครับว่าเราทุ่มเงินลงไป ก็อยากให้มันกลับมาตอบแทนเราได้คุ้มค่าเงินที่เสียลงไป วันนี้ผมมีข้อมูลมาฝากครับ เป็นข้อมูลแบบกว้างๆ นะครับ หลักๆ แบ่งเป็นช่วงดังนี้

ช่วงเวลา 06.00 – 07.00 น. ตอนเช้าตื่นนอน เช็ค Facebook ก่อนเดินทาง
ช่วงเวลา 10.00 – 12.00 น. ช่วงเวลาเคลียร์งานเสร็จ พร้อมจะไปทานข้าว เริ่มเข้าเน็ตเล่น Facebook
ช่วงเวลา 12.30 – 13.30 น. พักทานข้าวเที่ยงเสร็จ เข้าเน็ตเล่น Facebook ก่อนเริ่มทำงานในตอนบ่าย
ช่วงเวลา 16.30 – 17.30 น. ช่วงเวลาก่อนเลิกงาน เข้าดู Facebook ก่อนกลับบ้าน
ช่วงเวลา 20.00 – 24.00 น. ช่วงเวลานี้การใช้ Facebook จะค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นเวลาพักผ่อนของคนทำงาน

ข้อแนะนำที่มีประโยชน์

ข้อแนะนำ 1 อย่าพยายามโพสท์การขายทุกช่วงเวลา จะทำให้ท่านหมดทุนเร็วมาก แต่ให้เน้นขายในช่วงที่คิดว่าลูกค้าเราน่าจะเข้ามามากที่สุด
ข้อแนะนำ 2 ช่วงเวลาหลัง 6 โมงเย็น fanpage อื่นๆ ส่วนใหญ่จะโพสท์กันในเวลานี้ ดังนั้น Timeline ใน Facebook จะไหลเร็วมาก แนะนำให้ไปโพสท์ตอนดึกๆ เป็นโพสท์สินค้าตรงๆ เพราะ Timeline เริ่มช้าลง fanpage ต่างๆ เริ่มโพสท์น้อยลง และคนใช้จะเปิดเข้ามาชมก่อนนอน ทำให้ข้อมูลที่เราโพสท์ไปอยู่ค้างใน Timeline ของ Facebook ท่านต่างๆ ได้นานขึ้น
ข้อแนะนำ 3 วันที่เหมาะโฆษณาขายของมากที่สุด คือ วันอาทิตย์ เป็นวันพักผ่อน วันสบายๆ โอกาสที่จะขายได้ในวันอาทิตย์มีอยู่มากครับ
ข้อแนะนำ 4 วันที่ควรกำหนดงบโฆษณาขายของไว้น้อยๆ คือ วันศุกร์ และวันเสาร์ จะเป็นวันเที่ยวของคนทำงานครับ แต่ถ้าใครจะลองเปิดไว้แบบวันธรรมดาก็ได้ แล้วลองเอาสถิติมาเปรียบเทียบกันดู
ข้อแนะนำ 5 ช่วงที่เหมาะเทเงินโฆษณามากสุดคือ 16.30-24.00 น.
ข้อแนะนำ 6 ไม่ควรลงโฆษณาในวันหยุดยาว คนจะเล่น Facebook น้อยมากๆ ในช่วงนี้ ทำให้การลงโฆษณาอาจจะเสียเปลาครับ

ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลแบบกว้างๆ ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดูกลุ่มลูกค้าของท่านด้วยนะครับ ว่าเป็นวัยไหน วัยเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ หรือเพศไหน เพศชาย หรือเพศหญิง คือต้องทำการบ้านกันเยอะๆ ทีเดียวครับ เพราะถ้าท่านทุ่มงบประมาณลงหมด แต่ผลกำไรที่ได้รับกลับมาไม่คุ้มกัน จะทำให้เสียกำลังใจในการทำธุรกิจน่ะสิครับ เพราะเท่าที่ผมเห็นมาหลายๆ ท่านได้เสียกำลังใจ คือ หมดเงินไปกับการลงโฆษณาใน Facebook แต่ผลที่ได้รับ กลับที่เป็นไปตามที่คาดหวัง การเข้ามาในวงการนี้ก็เหมือนกับเราเป็นมือใหม่ ต้องศึกษาไว้เยอะๆ เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการลงโฆษณาลง และเพื่อให้ท่านมีกำลังใจที่จะทำธุรกิจของท่านต่อไปครับ

แม้ว่าช่องทางออนไลน์จะเป็นที่นิยมเพราะความสะดวกสบายเป็นจุดเด่น แต่หากบริการไม่ดี ผู้บริโภคก็อาจเปลี่ยนใจไปซื้อร้านออนไลน์ร้านอื่นก็เป็นได้ ดังนั้นผู้ประกอบการขายสินค้าออนไลน์ก็ควรใส่ใจการบริการด้วย เพราะหากบริการไม่ดี ร้านของผู้ประกอบการอาจมีชื่อเสียงทางลบในโลกออนไลน์ จนทำให้ลูกค้าไม่อยากมาซื้อด้วยเลยก็ได้ แต่หากใส่ใจในการบริการอีกเพียงเล็กน้อยก็สามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากกว่า ทั้งที่การบริการบางอย่างก็ใช้เงินลงทุนน้อยหรือไม่มีต้นทุนเลยด้วยซ้ำ

ผมก็ขอจบบทความแนะนำวิธีการขายของทางเน็ตแบบง่ายๆ ได้ใจความ พอให้มองภาพรวมของการขายของทางเน็ตได้นะครับ