รวยด้วยการเป็นผู้บริหารระดับสูง

ในสมัยก่อนนั้นบรรดาผู้ปกครองที่เป็นเถ้าแก่มักจะบอกสอนลูกสอนหลานว่า เวลาเรียนหนังสือไม่ต้องเรียนสูงมากนัก พอให้ได้ดีกรีมีปริญญาตรีแปะไว้ข้างฝา แล้วมาร่วมทำการค้าการขายจะร่ำรวยกว่า ส่วนพวกที่เรียนสูงจนจบปริญญาเอกเป็นด๊อกเตอร์ สุดท้ายก็ต้องไปเป็นลูกน้องในการรับจ้างบริหารงานให้พวกเถ้าแก่ รับเงินเดือนเกือบแสนแต่ไม่ถึงกับรวย

วิธีการทำอาชีพอิสระ

พอมาถึงสมัยนี้ เราอาจจะมองข้ามนักบริหารมืออาชีพ หรือผู้บริหารระดับสูงไปไม่ได้เสียแล้ว หากว่ามีฝีมือจริงๆ และสามารถสร้างผลงานเข้าตาจนได้รับความไว้วางใจจากเถ้าแก่หรือผู้ถือหุ้น จนไต่เต้าขึ้นไปเป็น number one ของบริษัทแล้ว เขาจะสามารถสร้างเงินเดือนได้ปีละหลักหลายล้านบาทได้อย่างสบายๆ

แล้วคำถามคือ รายได้ขนาดนี้มีที่มาได้อย่างไร

บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ถ้าจะมีผู้บริหารสูงสุดมีเงินเดือน เดือนละ 300,000 – 1,000,000 บาท ไม่ใช่เรื่องแปลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าได้เป็นกรรมการบอร์ดของบริษัทในเครือเพิ่มอีกสัก 4-5 แห่ง และรับเบี้ยประชุมเพิ่มไปอีกแห่งละถึง 300,000 – 1,000,000 บาทต่อปีก็มีให้เห็นกันอยู่จนชินตาสำหรับผู้บริหารระดับสูง

ซึ่งบางบริษัทใช้ระบบตั้งโบนัส หรือแบ่งส่วนกำไรตามยอดขาย หากทำได้ตามเป้าที่วางไว้ ในช่วงเศรษฐกิจขาขึ้นบริษัทใหญ่ๆ ต่างก็สร้างตัวเลขยอดขายใหม่สูงสุด ทำให้บรรดาผู้บริหารอมยิ้มไปตามๆ กัน หลายคนได้โบนัสถึง 3-5 ล้านบาทไปเชยชม

ส่วนอีกช่องทางที่สร้างเงินมากมายให้ผู้บริหารคือ ESOP หรือชื่อเต็มคือ EMPLOYEESTOCK OPTIONPLAN ที่กรรมการบริษัทส่วนใหญ่จะลงมติมอบสิทธิ์ในการซื้อหุ้นให้กับผู้บริหารและพนักงานของบริษัท เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เร่งสร้างผลกำไร ผลปรากฏว่า หุ้นเหล่านี้ส่วนใหญ่กว่า 70% มักมอบให้กับผู้บริหาร 5 คนแรกของบริษัท ยิ่งไปกว่านั้นบางคนได้สิทธิจองซื้อถึง 10 ล้านหุ้น

ลองจินตนาการดูว่า หากเราสามารถผลักดันกำไรจนทำให้หุ้นวิ่งขึ้นไปที่ราคาสุทธิ 5-6 บาทต่อหุ้น เขาก็จะมีกำไรเหนาะๆ คนละ 50-60 ล้านบาททีเดียว นักบริหารมืออาชีพ หรือผู้บริหารระดับสูงจึงเป็นอาชีพที่มองข้ามไปไม่ได้ แต่กว่าจะก้าวกันมาถึงขั้นนี้ได้ ล้วนต้องผ่านอะไรๆ มากมาย ต้องพิสูจน์ฝีมือให้คนอื่นเห็นว่าเราทำได้จริง ต้องผ่านประสบการณ์การทำงานที่โชกโชน ผ่านหนทางของคำว่า ชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบมา รวมถึงมีประสบการณ์ชีวิตที่จะนำมาดัดแปลงให้เป็นประโยชน์ในการทำงานอีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่อายุก็จะปาเข้าไปวัย 40-50 ปีแล้วกับตำแหน่งนี้ แต่ถ้าถามว่าตำแหน่งนี้เร่งได้มั้ย ก็ต้องตอบว่าได้แน่นอน ถ้าเราเก่งบวกเฮงอย่างน้อยอายุ 35 ปีน่าจะเข้าสู่ตำแหน่งนี้ได้แล้ว