เรารู้กันแล้วว่า เราถูกโปรแกรมมาในทางลบหรือทางขาดแคลนจากโลกแห่งข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ครอบครัว เพื่อน อีเมลล์ หรืออินเตอร์เน็ต ฯลฯ มาตั้งแต่เด็กๆ สิ่งเหล่านั้นมีบทบาทอย่างไรในการฉุดคุณไว้เบื้องหลัง?
ข้อแรก คุณอาจรู้สึกว่า คุณจะทำให้ครอบครัวเสียหน้า หรือกลัวว่าเพื่อนจะไม่ชอบคุณอีกต่อไป แล้วหากคุณทำให้ความมั่งคั่งเกิดขึ้นมา คนที่ถูกโปรแกรมความขาดแคลนไว้ก็จะพูดว่า
“เธอจ่ายไปเท่าไหร่น่ะ มันไม่สูงเกินไปหน่อยหรือ?”
“จริงๆ แล้วเธอจำเป็นต้องมีแค่ไหนถึงจะพอ?”
“ไม่เห็นเหรอ คนไม่มีจะกินกินอีกมากมาย แล้วยังจะกินกันขนาดนี้เชียวหรอ?”
คุณก็เริ่มรู้สึกผิดถ้าจะซื้อเสื้อตัวนั้น อาหารจานนั้น หรืออะไรที่ดูค่อนข้างจะหรูหราเช่นนั้น หรือเมื่อคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีคุณก็จะเริ่มถ่อมตัวต่อหน้าเพื่อนที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับคู่รัก คุณปิดบังตัวเองเพราะคุณต้องการเข้าให้ได้กับคนอื่นๆ ที่เป็นคนถังแตกอย่างพวกเขา หรือคนที่ขาดแคลนในเรื่องต่างๆ อย่างเช่นพวกเขา
ฉะนั้น อะไรหรือที่เรืยกว่ามากเกินไป?
ถ้าคุณสามารถเดินทางด้วยเครื่องบินไปไหนมาไหนได้ นั่นมากเกินไปหรีอเปล่า? ก็ต้องถามว่า เวลาของคุณมีค่ามากแค่ไหนหล่ะ? ความสะดวกสบายของคุณมีค่าเท่าไหร่หล่ะ? คุณรู้สึกไม่ดีหรอเปล่าถ้าจ่ายเงินค่าเดินทางด้วยเครื่องบินเที่ยวละ 2,500 บาท? คุณเคยนั่งไตร่ตรองหรือเปล่าว่าความรู้สึกที่ไม่ดีนี้มาจากไหน? คุณเชื่อหรีอเปล่าว่าการโปรแกรมจิตมาแต่เนิ่นนานนี้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย?
ความรู้สึกไม่ดีที่เกิดขึ้นของคุณ มาจากความคิดในอดีตที่ว่า หากเราได้สิ่งดีๆ แล้ว จะมีใครบางคนต้องได้สิงที่ไม่ดีหรือเปล่า? สิ่งนี้เกิดขึ้นกับคนจำนวนมากมาย ทั้งหมดนี้มาจากความเชื่อในความขาดแคลนและทรัพยากรอันจำกัด
หากคุณเป็นเหมือนคนจำนวนมาก คุณก็จะรู้สึกว่าการใช้เงินขึ้นเครื่องบินเที่ยวละ 2,500 บาท นั้นเป็นการใช้จ่ายมากเกินไป เพราะยังมีคนที่ยากจนมากมายที่สามารถได้ประโยชน์จากเงิน 2,500 บาท นี้ หรือนำไปใช้บริจาคให้วัด หรือใช้ไปในการรักษาผู้ปวยโรคมะเร็งและอื่นๆ
ที่จริงแล้ว มันมีรากฐานมาจากความคิดที่ว่า มีเงินอยู่เพียง 2,500 บาท ก้อนเดียวเท่านั้น และเราจะต้องเลือกว่าจะใช้มันไปในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง นี่แหละคือข้อสมมติเริ่มต้น หรือความเชื่อแต่ดั้งเดิมว่าเงินมีจำกัด นี่คือความเชื่อที่ทำให้คนถังแตก มันมีพื้นฐานจากไอเดียที่ว่า คนที่มีเงินมากๆ ควรแจกจ่ายให้แก่คนอื่นๆ ที่ไม่มี ทำไมหรือ? เพราะพวกเขาไม่มีนะสิ พวกเขา “จำเป็น” ต้องได้มัน
แต่ไม่มีอะไรที่เกินความจริงไปได้หรอก
ที่จริงคุณสามารถโดยสารเครื่องบินด้วยเงิน 2,500 บาท และบริจาคเงิน 2,500 บาท แก่วัด และรักษาผู้ป่วยด้วยเงิน 2,500 บาท เพียงแต่คุณต้องหาเงินให้มากขึ้นเท่านั้นเอง! และถ้าคุณไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ก็เรียนรู้สิ!
เงินก็เหมือน ความรัก สสาร และทรัพยากรอื่นๆ มีอย่างไร้ขีดจำกัด ทรัพยากรเหล่านี้ สามารถหาได้ไม่หมด เพียงแต่เราต้องทำให้มันเกิดขึ้นเท่านั้นเอง เราสามารถใช้ชีวิตอย่างหรูหรา และสร้างความดีไปพร้อม ๆ กันได้