รวยด้วยการเป็นฟรีเตอร์ (Freeter)

คำว่า ฟรีเตอร์ (Freeter) ชื่อนี้มีมาแต่แห่งหนใด ทำไมในประเทศไทยจึงไม่คุ้นหูเลย?

ก่อนอื่นมาดูคำว่า Freeter กันก่อนว่ามีที่มายังไง คำว่า Freeter มีที่มามาจากคำว่า Freebiter ซึ่งเป็นภาษาเยอรมัน หมายถึง คนทำงานทั่วๆ ไป

วิธีการทำอาชีพอิสระ

ฟรีเตอร์นั้นโด่งดังมาจากประเทศญี่ปุ่นั่นเอง ซึ่งวัยรุ่นญี่ปุ่นในปัจจุบันนี้นิยมเป็นฟรีเตอร์กันมากเลยทีเดียว เป็นงานในรูปแบบ part time จ่ายค่าแรงเป็นรายชั่วโมง แต่ดีตรงที่อยากทำก็ทำ ไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ ดีมากๆ เลย ก็เลยทำงานอย่างนี้แบบเล่นๆ หาค่าขนม หรือค่าช้อปปิ้งเสียมากกว่าจะหาเงินเป็นเรื่องเป็นราว และถ้าเงินที่ได้ไปหมดลงแล้ว บรรดาวัยรุ่นก็จะหวนกลับมาเป็นฟรีเตอร์กันใหม่วนเวียนกันไปแบบนี้ ในช่วงอายุของฟรีเตอร์นี้ส่วนใหญ่จะรับกันตั้งแต่อายุ 15-34 ปี ซึ่งในปัจจุบันญี่ปุ่นมีบรรดาฟรีเตอร์อยู่ถึง 5 ล้านคนเลยทีเดียว

แต่การทำงานเป็นฟรีเตอร์นั้นทางรัฐบาลญี่ปุ่นไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ เป็นเพราะว่าการเป็นฟรีเตอร์ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีนั่นเอง และทางรัฐบาลญี่ปุ่นมองว่าฟรีเตอร์เป็นแค่การทำงานใช้แรงงานเท่านั้น

และที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นการที่เค้าเหล่านั้นได้ผันตัวเองมาเป็นฟรีเตอร์ เมื่อเวลาจะไปสมัครงานเป็นหลักเป็นแหล่งจะถูกมองว่าเป็นคนรักอิสระ จะทำงานได้ไม่นาน เพราะที่ประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่ถ้าทำงานที่บริษัทไหนแล้ว ก็จะทำงานบริษัทนั้นไม่เปลี่ยน และทำกันยันถึงเกษียณเลยทีเดียว บางครั้งเมื่อฟรีเตอร์ยังหางานทำจริงๆ ไม่ได้ เค้าจึงยังเป็นฟรีเตอร์ต่อไปเพื่อรักษารายได้ของตัวเอง

ในประเทศไทยฟรีเตอร์นั้นถ้าจะกล่าวว่าเทียบได้กับฟรีแลนซ์ (Freelance) ก็คงไม่ผิดนัก แต่ดูฟรีแลนซ์จะดูดีกว่าฟรีเตอร์ เป็นเพราะว่าฟรีแลนซ์ต้องใช้ความรู้ หรือทักษะเฉพาะด้านที่ได้ร่ำเรียนมา ทักษะจะเทียบได้พอๆ กับพนักงงานอาชีพทั่วๆ ไป เพียงแต่ไม่ได้สังกัดบริษัทเท่านั้นเอง

ซึ่งอาชีพฟรีเตอร์ก็เป็นอาชีพที่มีความอิสระมาก ถ้าทำจริงๆ จังๆ ไม่เลิกเมื่อได้เงินมา และทำอย่างต่อเนื่องก็จะสามารถสร้างเงินได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเช่นกัน ถ้าเป็นคนไทยก็น่าจะเหมาะกับนักเรียนไทยที่ไปเรียนที่ญี่ปุ่น และหางานทำไปในระหว่างเรียน ถ้าไม่ช้อปปิ้งไปจนหมด เมื่อเรียนจบก็น่าจะสร้างเงินได้พอสมควร