ในปัจจุบันนี้มี Social Media มากมายให้เราได้เลือกใช้ตามความชอบ หรือรูปแบบการใช้งานของตน ซึ่งก็จะมี Facebook เป็นแอพหลักในการติดตามเรื่องราวข่าวสารจากคนรอบตัว และใช้ Twitter เพื่อคอยติดตามอ่านข่าวสั้นๆ หรือเรื่องราวสั้นๆ ในเรื่องที่เราสนใจ และใช้ Instragram เพื่อดูรูปจากคนที่เราติดตาม และที่กำลังมาแรงมาสักพักใหญ่แล้ว (เปิดตัวตั้งแต่ปี 2010) ซึ่งก็คือ Social Media ชื่อดังอย่าง Pinterest ที่ในปัจจุบันมีผู้ใช้งานแล้วถึงกว่า 70 ล้านคน ถือว่ามากทีเดียว และที่สำคัญ Pinterest นั้นยังมีรายได้ที่มาจากการคลิ้กเป็น 4 เท่าของ Twitter เลยทีเดียว และยังมีรายได้มาจากการคลิ้กมากกว่า Facebook ถึง 27% ข้อมูลเหล่านี้อาจจะทำให้ใครหลายคนกลับมาสนใจใน Pinterest อีกครั้งหนึ่ง ว่ามันน่าจะทำอะไรให้กับธุรกิจได้ดีทีเดียว เรามารู้จักข้อมูลสถิติต่างๆ ของ Pinterest กันสักหน่อย ก่อนที่จะทำการตลาดให้ธุรกิจของคุณด้วย Pinterset นะครับ
กลุ่มลูกค้าของ Pinterest เป็นใคร
เนื่องจากเนื้อหาของ Pinterest ส่วนมาก จะเน้นไปทางเสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ ของใช้ และของ DIY สำหรับผู้หญิง จึงทำให้จำนวนผู้ใช้งานของ Pinterest กว่า 70 ล้านคนนั้น เป็นผู้หญิงถึงประมาณ 56 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งก็ถือเป็นผู้หญิงจำนวน 80% ถ้าเราต้องการทำการตลาดบน Pinterest นั้น อันดับแรกเราควรจะมั่นใจก่อนว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรานั้นเน้นไปทางสินค้ากลุ่มผู้หญิงเป็นส่วนมากใช่หรือไม่ หรือถ้าเป็นสินค้ากลุ่มผู้ชาย เราก็ต้องพิจารณาให้ดีว่าคุ้มค่าไหมที่จะลงทุนใน Pinterest ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ชายเพียงแค่ 20% เท่านั้น
Pinterest ยังมีพื้นที่ว่างสำหรับนักธุรกิจ
และอีกประการผู้ใช้ Pinterest ส่วนใหญ่ ยังเป็นแค่ User ทั่วๆ ไปที่เพียงต้องการนำเสนอรูปภาพ หรือเนื้อหาต่างๆ ที่ตัวเองสนใจเท่านั้น เพราะจริงๆ แล้วจากผู้ใช้ Pinterest ทั้งหมดนั้น มีกลุ่มธุรกิจไปลงทะเบียนอยู่เพียงแค่ 500,000 บัญชีเท่านั้นเอง ซึ่งนับว่าน้อยมากหากเรานำไปเทียบกับอัตราส่วนผู้ใช้ทั้งหมด ซึ่งนี่ก็หมายความว่ายังมีพื้นที่อีกมาก ที่เจ้าของธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายอยู่ใน Pinterest จะสามารถลงไปแบ่งชิ้นเค้กทำการตลาดเพื่อหาลูกค้าจากกลุ่มเป้าหมายได้อีกมาก
Pinterest สร้างหน้าร้านธุรกิจได้
Pinterest สามารถสร้างหน้าร้านให้ธุรกิจของคุณได้ด้วย โดยรูปภาพที่คุณลง สามารถใส่ป้ายราคาแปะอยู่ตรงมุมบนซ้าย พร้อมทั้งมี link ให้กดเพื่อเชื่อมมาสู่หน้าเว็บของคุณ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เจ้าของธุรกิจมากมายไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ หรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จากทั่วโลกต่างก็ชื่นชอบ Pinterest เพราะ Pinterest มีผู้มาลงสินค้าขายไว้มากมาย จึงช่วยให้นักช้อปออนไลน์ที่กำลังมองหาสินค้าเก๋ๆ เข้ามาช้อปสินค้าได้อย่างจุใจ
สร้างเนื้อหารูปภาพไว้มากๆ
คุณควรตรวจสอบธุรกิจของคุณก่อนว่า ธุรกิจของคุณนั้นสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ ที่จะสามารถดึงดูดผู้เข้าชมของคุณได้มากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญบัญชี Pinterest ของคุณควรจะมีรูปภาพจำนวนมากไว้ให้สำหรับผู้เข้าชม เพราะ Pinterest เป็นเว็บที่จะใช้ภาพเล่าเรื่องมากกว่าการสื่อสารทางตัวหนังสือ คุณสามารถสร้างความน่าสนใจให้กับ Pinterest ของคุณโดยการทำรูปภาพที่เป็นการสื่อโดยตรงกับธุรกิจเราไว้จำนวนมากๆ ครับ แล้วเอามา Pin สม่ำเสมอเพื่อเพิ่มโอกาสให้มีคนมาติดตามธุรกิจของเรามากขึ้น
การ Repin
การ Repin ถือเป็นจุดเด่นของ Pinterest เลยก็ว่าได้ การ Repin คืออะไร การ Repin คือการนำ bookmark ที่คุณชื่นชอบมาปักหมุดไว้กับบอร์ดของคุณแบบส่วนตัว ซึ่งจะเป็นการสร้าง bookmark ส่วนตัวของคุณด้วยรูปภาพ มารวมไว้เป็นหนึ่งเดียวในหน้าบอร์ดของคุณ สามารถแลกเปลี่ยน และแบ่งปันช้อมูล ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ ราคา แจ้งแหล่งที่มาของข้อมูลได้ จากเพียงการ Repin ซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะถูกนำไปกระจายออกอย่างกว้างขวาง
เนื้อหารูปภาพใน Pinterest มีการ share กันมาก
และนอกจาก Pinterest จะมีกลุ่มผู้ใช้งานจำนวนมากอย่างที่กล่าวเอาไว้ข้างต้นแล้ว ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ประกอบสำคัญอีกอย่าง คือระยะเวลาในการที่ user เข้าใช้งาน Pinterest นั้นเฉลี่ยอยู่ที่ 98 นาทีต่อเดือน แล้วหากเฉลี่ยย่อยลงไปอีกจะเหลือแค่ประมาณ 3 นาทีต่อวัน ซึ่งถ้าเทียบกับ Facebook อาจจะดูน้อยไปเลย แต่เราจะมองลึกลงไปอีก เพราะแค่ 3 นาทีต่อวัน แต่ว่าแต่ละ รูปภาพของ Pinterest นั้นจะถูก Repins (เหมือนกับการ share ใน Facebook ให้ post ไปถึงกลุ่มคนได้กว้างขวางขึ้น) ไปกว่า 80% และที่สำคัญนั้นสำหรับผู้ใช้ที่เป็นบัญชีธุรกิจในประเทศอเมริกานั้นจะมีรายได้จากการขายสินค้าอยู่ในช่วงประมาณ 140 – 180 ดอลล่าสหรัฐ ต่อ 1 การสั่งซื้อเลยทีเดียว
ศึกษาแบรนด์สินค้า ในสินค้าแต่ละหมวด
สิ่งสำคัญลำดับถัดมาที่ทำให้ Pinterest นั้นมีประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ มาจากการที่แต่ละหมวดหมู่ของเนื้อหารูปภาพนั้นเสมือนเป็นที่รวมตัวของกลุ่ม Community ของคนที่มีความชื่นชอบในสิ่งเดียวกันอยู่แล้ว จึงทำให้การกด Pin และ Repins นั้นค่อนข้างสูง เพราะเป็นเรื่องที่พวกเขามีความสนใจ ทำให้โอกาสที่จะมีคนเห็นเนื้อหารูปภาพ ซึ่งก็แน่นอนว่ายิ่งเพิ่มโอกาสที่จะทำให้คนเห็นเนื้อหารูปภาพของเราได้ไม่ยาก โดยประเภทสินค้าที่มีกลุ่มผู้ติดตามมากก็จะเป็นพวก Fashion & Accessories ซึ่งที่น่าสนใจก็คือแม้ว่าจะมีผู้คนสนใจในเนื้อหารูปภาพกลุ่มนี้มาก แต่กลับมีแบรนด์สินค้าอยู่เพียงแค่ 18% เท่านั้น ต่างจากกลุ่ม Electronic ที่มีกลุ่มผู้ใช้งานเข้าไปดูน้อยกว่า แต่กลับมีแบรนด์สินค้ามาทำการตลาดกันเป็นจำนวนมาก ทำให้ก่อนจะทำการตลาดด้วย Pinterest นี้ ควรศึกษาให้ทะลุปุโปร่งว่า สินค้าประเภทไหนที่เป็นที่นิยมในขณะนั้นๆ และประเภทไหนที่มีคู่แข่งมาก และประเภทไหนที่มีคู่แข่งน้อย
Pin ต้องมีการระบุราคา
ข้อมุลสำคัญประการถัดมาที่ทาง Pinterest ระบุนั้นพบว่า หาก Pin ที่ว่านั้นเป็นแบรนด์สินค้า ที่มีการระบุราคาไว้ด้วย ก็จะได้อัตราการกดเข้าไปชมที่สูงกว่าถึง 36% โดยเฉพาอย่างยิ่ง ถ้ามีการ Call to Action แล้วหล่ะก็ จะยิ่งเพิ่ม Engagement ของ Pin นั้นๆ ได้ถึงกว่า 80% เลยทีเดียว
สีรูปภาพของ Pin
ในกรณีที่ Pin เป็นรูปภาพนั้น การใช้รูปภาพสีจะได้รับความสนใจในการ Repins ต่อ มากกว่าการใช้รูปสีขาวดำถึง 3 เท่า และในกรณีที่เป็นภาพสีนั้นก็ยังมีข้อมุลที่น่าสนใจอีกว่าหากสีที่ใช้เป็นสีกลุ่ม แดง น้ำตาล เหลือง แล้ว ก็จะมีโอกาสในการถูก Repins มากกว่าการใช้สีฟ้าถึง 2 เท่า
ช่วงเวลาในการ Pin
และนอกจากตัวเนื้อหารูปภาพเองแล้วนั้น ช่วงเวลาในการ Pin ก็มีผลกับอัตรา Engagement เช่นกัน โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการ Pin นั้น จะอยู่ที่ช่วงเวลาประมาณ 14.00 – 16.00 น. และอีกช่วงเวลาหนึ่งคือช่วงเวลาค่ำไปจนถึงดึกเลยๆ ประมาณ 20.00 – 1.00 น.
ใช้ประโยชน์จากความถี่ในการ post
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งสำหรับการใช้ Pinterest คือ ผู้ใช้งาน Pinterest สามารถ Repin ได้ถึง 15-30 รายการต่อวัน ด้วยการปักหมุดอย่างต่อเนื่องนี้ เป็นการสร้างความเคลื่อนไหวเพื่อกระจายข้อมูลได้ตลอดทั้งวัน การใช้ประโยชน์จากความถี่ในการโพสต์ช่วยสร้างกลยุทธ์ในทางการตลาดได้เป็นอย่างดี
สรุป
นอกจากข้อมูลที่นำเสนอไปข้างต้นแล้วนั้น อีกสิ่งหนึ่งสำหรับการใช้ Pinterest ที่ควรรู้ก็คือหลักการที่ว่ายิ่งเราไป Engage คนอื่นมากเท่าไร คนเหล่านั้นก็ยิ่งกลับมา Engage กับเรามากขึ้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการ Repins การ Comment หรือแม้กระทั่งการคอยขอบคุณให้กับคนที่มา Pin หรือ Repins ให้กับเราอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการสร้าง connection ที่ดีบนโลกออนไลน์ และจะทำให้แบรนด์ของเรานั้น กลายเป็นที่รู้จักของผู้ใช้ Pinterest มากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งหากใครที่คิดจะลองใช้ Pinterest ให้มามีส่วนช่วยในการทำธุรกิจแล้วล่ะก็ ลองนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้กันดูได้เลยครับ อาจจะดูยุ่งยากนึดนึงในการใช้งานช่วงแรกๆ แต่ถ้าใช้งานไปสักระยะหนึ่ง รู้ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ แล้ว อะไรๆ ก็จะง่ายขึ้น ก็ต้องลองดูครับสำหรับ Social Media นามว่า Pinterest นี้