รวยด้วยการขายโอ่งมังกรราชบุรี

“โอ่งมังกรจากจังหวัดราชบุรีมาแล้ว” นี่คือเสียงโฆษณาจากรถกระบะที่หอบสินค้ามาประกาศตามบ้านทุกสัปดาห์ สินค้าที่มีประวัติสืบทอดมาจากประเทศจีนนี้ หากใครโชคดีได้มีไว้ใช้ในบ้านซักใบ จะได้ใช้น้ำเย็นชื่นใจสุดๆ โอ่งราชบุรีนี้ยิ่งอยู่ไกลจากแหล่งโรงงานก็ยิ่งหายาก ดังนั้นหากขายได้ก็ยิ่งกำไรงาม

เรื่องราวของโอ่งมังกรราชบุรี

แค่ชื่อโอ่งก็รู้แล้วว่ามาจากแหล่งไหน โอ่งราชบุรีเดิมทีเป็นฝีมือของคนจีนที่มีฝีมือการปั้นเครื่องปั้นดินเผาและมาตั้งรกรากในประเทศไทย ประวัติของโอ่งนี้มีมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกเค้าได้ค้นพบว่าดินแดงจากจังหวัดราชบุรีเป็นดินที่เอามาใช้ปั้นโอ่งได้ดีและมีความทนทาน หลังจากนั้นเรื่องราวของโอ่งราชบุรีจึงบังเกิดขึ้น

วิธีการทำอาชีพอิสระ

เครื่องปั้นดินเผาที่ผลิตในจังหวัดราชบุรีในช่วงยุคแรกๆ นั้นจะเน้นการใช้งานตามบ้านหรือสำหรับหมัก เช่น ใช้เก็บน้ำ, หมักซีอิ๊ว, น้ำปลา ฯลฯ และไม่มีลวดลายสวยเก๋อะไรมากนัก หรือเรียกว่า “โอ่งเลี่ยน” ต่อมาได้มีการเพิ่มลวดลายเสริมเข้าไปเพื่อสร้างมูลค่า แน่นอนว่าโอ่งที่ทำด้วยฝีมือชาวจีน ก็ต้องเน้นลายแบบจีน เช่น ลายมังกร, ดอกไม้, ฯลฯ แต่ที่เราเห็นกันบ่อยๆ คือลายมังกร ซึ่งสำหรับชาวจีนแล้ว มังกรเป็นเทพเจ้าและเป็นสัตว์มงคล สะท้อนถึงสัญลักษณ์อันโดดเด่นของวัฒนธรรมจีน ส่วนรูปแบบของลายโอ่งมีหลายแบบ คือแบบลายเรียบ, แบบลายนูน, ลายที่ใช้แบบพิมพ์ลาย

ต่อมาโอ่งราชบุรี ก็เริ่มมีการขยายตัวและเป็นที่รู้จักมากขึ้นและถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายแบบ เช่น ประดับบ้านหรือสวน, ใช้ปลูกต้นไม้, เลี้ยงปลา, ฯลฯ ว่ากันไป และเริ่มมีการตั้งโรงงานโอ่งแข่งขันกันมากขึ้น แต่มีความต้องการใช้โอ่งกันลดลง เพราะหลายๆ บ้านเริ่มใช้ก๊อกน้ำแทนการรองน้ำฝน เรียกได้ว่า Demand ลดลง แต่ Supply สูงขึ้น

ข้อดีของโอ่งมังกรราชบุรี

– มีความทนทานและใช้ได้นาน (สังเกตได้เลยจากแต่ละบ้านที่ใช้โอ่งราชบุรี สามารถใช้ได้นานเป็นสิบๆ ปี)
– หากไว้ใช้เก็บน้ำ ก็จะได้น้ำที่เย็นชื่นใจ แตกต่างจากน้ำที่เก็บในถังพลาสติก
– เป็นสินค้าที่ขายดีในช่วงหน้าแล้ง เพื่อรองรับความต้องการใช้โอ่งใบใหญ่สำหรับกักเก็บน้ำไว้ใช้ ดูได้จากเมื่อปี พ.ศ. 2555 ที่ประเทศไทยประสบภัยแล้งในหลายพื้นที่
– โอ่งราชบุรีเป็นผลิตภัณฑ์แบบ Stoneware ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะในหมู่คนเฒ่าคนแก่ ดังนั้นจึงเป็นสินค้าอีกชิ้นหนึ่งที่นิยมซื้อเป็นของฝากไปไว้ใช้ในบ้านได้
– ปัจจุบันนี้นิยมใช้โอ่งสำหรับประดับบ้านและสวน รวมถึงโรงแรมรีสอร์ทก็นิยมนำโอ่งมาประดับด้วย
– ว่ากันว่าโอ่งแบบลายนูนจะมีราคาแพงกว่าโอ่งแบบลายเรียบ และยิ่งแพงขึ้นตามอายุของตัวโอ่งด้วย (ราคาของโอ่งแบบลายนูนอาจขายเป็นหลักหมื่นบาท)
– หากเป็นโอ่งลวดลายสวยๆ ฝีมือดี ก็จะเป็นที่ต้องการในหมู่นักสะสม

รายได้จากการขายโอ่งมังกรราชบุรี

โอ่งราชบุรีนั้นจะมีผู้ทำออกจำหน่ายในทุกจังหวัดในประเทศไทยอยู่แล้ว หรือพ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งใจจะสร้างรายได้จากการขายโอ่ง จะดั้นด้นเดินทางไปซื้อมาจากแหล่งโรงงานที่ทำโอ่ง นั่นคือ จ.ราชบุรี ขอแนะนำว่าพ่อค้าแม่ค้าที่ไปเลือกซื้อโอ่งควรมีฝีมือในการคัดเลือกโอ่งดีๆ ด้วย ส่วนราคาแล้วแต่ลายของโอ่งและดินที่ทำด้วย แล้วขนโอ่งมาขายอีกที (คล้ายๆ กับการไปซื้อผลไม้จากจังหวัดที่ขึ้นชื่อ แล้วขนมาขายอีกที)

หากใช้วิธีขนใส่รถเร่ขาย ก็ต้องรับค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าน้ำมันรถด้วย (เดี๋ยวนี้ค่าน้ำมันรถมีแต่จะแพงเอาๆ)

เท่าที่ทราบจะขายต่อประมาณ 2-3 เท่าของราคาต้นทุน (ปีนี้ราคาอาจจะเพิ่มขึ้นแล้ว) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะทางขนโอ่งไปขาย ซึ่งอาจจะตั้งร้านขายหรือใช้วิธีขนใส่รถแล้วขับไปขายตามบ้านอีกที แล้วแต่วิธีการตลาดของพ่อค้าแม่ค้าแต่ละรายไป

การคัดเลือกโอ่งมังกรราชบุรีเพื่อไปขายต่อ

พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเนื่องด้วยไม่มีความชำนาญในการคัดเลือกโอ่งคุณภาพดีเพื่อนำมาขายต่อ แต่เชื่อได้เลยว่าหากรู้เคล็ดลับและฝึกสังเกตให้เป็นก็สามารถกลายเป็นพ่อค้าตาดีดูโอ่งเป็นได้ ซึ่งหลักการเลือกโอ่งคุณภาพดีนั้นมีหลายข้อด้วยกัน

– สังเกตที่ขอบปากโอ่งจะต้องไม่บิดเบี้ยว แต่เบี้ยวนิดๆ ถือว่าดี เพราะแสดงว่าเนื้อโอ่งจะแกร่งและไม่รั่วง่ายๆ
– โอ่งที่มีเนื้อบาง, มีรอบบุบ, มีรอยแตกร้าว, ไม่เหมาะกับการใช้งานนานๆ ดังนั้นไม่ต้องเลือกโอ่งแบบนี้
– ฟังเสียงเคาะโอ่ง : โอ่งก็เหมือนกันกับแตงโมที่นอกจากจะดูผิวภายนอกว่าดีจริงหรือไม่แล้ว การฟังเสียงเคาะก็เป็นเรื่องสำคัญในการคัดเลือกโอ่งด้วย ถ้าเป็นแตงโมเราจะใช้นิ้วมือดีดตรงกลางลูกแล้วฟังเสียงว่าแน่นหรือไม่ ถ้าแน่น แสดงว่าเนื้อแตงโมจะแน่นกรอบ
แถไปเรื่องแตงโมเยอะแล้ว กลับมาพูดเรื่องโอ่งกันต่อ วิธีคัดเลือกด้วยการฟังเสียงไม่ต้องใช้นิ้วมือดีด แต่ใช้เหล็กเคาะแทน โดยเคาะที่ขอบปากโอ่งแล้วฟังเสียง เสียงที่ได้ยินจะต้องแกร่ง จากนั้นลองกรีดที่ตัวโอ่ง เสียงที่ได้ยินจะต้องกังวานและตามด้วยเสียงหึ่งๆ

ทักษะการซ่อมก็เป็นสิ่งสำคัญ

ขอรับรองเลยว่าถ้าหันเหมาทำอาชีพขายโอ่งนั้น แล้วอยากร่ำรวยจริงๆ พ่อค้าแม่ค้าควรมีคนที่สามารถซ่อมโอ่งเป็นด้วยเพื่อไม่ให้เจอกับภาวะขาดทุน เพราะการขนส่งโอ่งแต่ละครั้ง คงจะเลี่ยงกับปัญหาสินค้าชำรุดไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ ทำการซ่อมแซมโดยใช้วัสดุอย่างเช่น ปูนซีเมนต์, น้ำเกลือ, สีน้ำมัน

การขายโอ่งราชบุรีเหมือนจะง่าย เพราะเราไม่ได้เป็นคนผลิต แต่หากผู้อ่านตัดสินใจเลือกเส้นทางอาชีพนี้เพื่อสร้างรายได้แล้วล่ะก็ อยากให้มองหาดูว่าที่ๆ เราจะขายนั้นมีคนที่ต้องการโอ่งราชบุรีดีๆ ไว้ใช้ไว้ประดับซักใบด้วยหรือไม่ด้วย เพื่อให้หยาดเหงื่อและเงินที่เสียไปกับอาชีพนี้จะไม่สูญเปล่าและได้รับรายได้งามๆ กันนะเออ